วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2552

การชำรุดและการซ่อมแซมถนน

จากสภาพของถนนบริเวณข้างๆ มหาวิทยาลัยนเรศวร มีการสัณจรของรถจักรยานยนต์ และรถยนต์เป็นจำนวนมาก จึงทำให้ถนนที่ใช้สัณจรนั้น มีการเกิดความเสียหายไปตามแต่สภาพของการใช้งาน ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นบนผิวของถนนนั้นจะมีความเสียหายที่แตกต่างกันออกไป
ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผิวของถนนมีหลายชนิด แบ่งออกเป็นลักษณะต่างๆตามการซ่อมแซมได้ดังนี้
1.วิธีการอุดรอยแตก (Crack Filling) คือการซ่อมแซมถนนที่เกิดความเสียหายในลักษณะการเกิดรอยแตก ที่ไม่ต่อเนื่องกัน เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำซึมผ่านรอยแตก และอุดรอยแตกของช่องว่างที่อาจลึกลงไปถึงชั้นโครงสร้าง
2.วิธีการฉาบผิวแบบฟ็อกซีล (Fog seal) คือการซ่อมแซมพื้นผิวของถนนที่แตกเป็นรอยเส้นเล็กๆ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำซึมลงไปในผิวของรอยแยก
3.วิธีการฉาบผิวแบบชิพซีล (Chip Seal) คือการซ่อมแซมถนนที่ผิวหน้าของถนนเกิดการหลุดร่อนออกไป เพื่อป้องกันไม่ให้ถนนเกิดความเสียหายมากขึ้นกว่าเดิม
4.การฉาบผิวแบบสเลอรี่ซีล (Slurry Seal) คือการซ่อมแซมความเสียหายของถนนที่เกิดความเสียหายเฉพาะชั้นผิวทาง ที่เกิดในโครงส้รางที่ยังไม่เสียหายหรือชำรุดวิธีนี้จะใช้ในการซ่อมแซมถนนชั่วคราวเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำซึมผ่านลงไปทำความเสียหายให้แก่ชั้นโครงสร้าง และยังช่วยสร้างความฝืดให้แก่ผิวถนนที่มีความลืนได้
5.การปะซ่อมผิวทาง (Skin Patching) คือการซ่อมแซมความเสียหายของถนนที่เกิดความเสียหายเฉพาะชั้นผิวทาง โดยนำผิวทางเดิมที่เสียหายออก แล้วนำไปผสมกับส่วนผสมใหม่ ใช้ในการซ่อมแซมผิวที่แตก และหลุดร่อนออกไป เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำซึมผ่านลงไปทำลายโครงสร้างของชั้นถนน และยังคืนสภาพให้ถนนสามารถกลับมาใช้งานได้ใหม่
6.การขุดซ่อมผิวทาง (Deep Patching) คือการซ่อมแซมความเสียหายของถนนที่ความเสียหายเกิดขึ้นลึกกว่าชั้นผิวทาง ลักษณะความเสียหายที่เกิดขึ้นนี้ จะทำให้ถนนเกิดการบวมแตก ผิวหลุดร่อน การซ่อมแซมในลักษณะนี้จะเป็นการซ่อมแซมแบบถาวร เพื่อป้องกันไม่ให้ความเสียหายที่เกิดขึ้นในชั้นโครงสร้างลุกลามขึ้นไปมากกว่าเดิม และยังสามารถช่วยยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้นไปได้อีก
7.วิธีการเสริมผิวแบบแอสฟัลต์ (Asphalt Overlay) คือการซ่อมแซมผิวถนนเดิมโดยการเสริมวัสดุผิวทางด้วยแอสฟัลต์บนผิวทางเดิม เพื่อแก้ไขความเสียหายของผิวทาง และเสริมความแข็งแรงให้แก่ผิวของถนน สามารถปรับระดับผิวทางที่ทรุดตัวเป็นแอ่งร่องล้อ และเสริมความแข็งแรงให้โครงสร้างของถนน
8.การอุดซ่อมโพรงใต้แผ่นพื้นถนนคอนกรีต (Subsealing) คือการซ่อมแซมถนนอุดโพรงใต้ถนนคอนกรีต ที่มีผลความเสียหายจากการกัดเซาะอันเนื่องมาจากการทรุดตัวของโครงสร้างถนนเพิ่มเสถียรภาพให้แก่พื้นคอนกรีต เพื่อป้องกันไม่ให้ถนนเกิดการทรุดตัว และเกิดความเสียหายลุกลามไปมากขึ้น


การสำรวจสภาพพื้นผิวถนนบริเวณริมคลองชลประทาน ข้างมหาวิทยาลัยนเรศวร

จากการทำการสำรวจพื้นผิวถนนพบได้ว่าควรจะมีการซ่อมแซมถนนเส้นทางนี้เป็นอย่างมาก เพราะเมื่อได้มีการสำรวจสภาพของพื้นผิวถนนแล้ว พบว่าความเสียหายของสภาพพื้นผิวอาจจะเพิ่มขึ้นไปได้อีก อันเนื่องมาจากสภาพโดยทั่วไปของถนนที่ไม่ได้ถูกสร้างมาไว้เพื่อใช้ในการสัญจร แต่สภาพของชั้นโครงสร้างของถนนนั้นได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในการกันน้ำ จึงทำให้ถนนเส้นนี้มีความเสียหายจากการใช้มากที่สุด ทั้งความเสียหายนี้อาจจะมากจากน้ำที่ขังอยู่บริเวณหลุมของถนน ซึ่งอาจจะซึมผ่านลงไปในชั้นโครงสร้างทำให้ชั้นโครงสร้างเสียหาย จึงต้องทำการซ่อมแซมถนนสายนี้โดนใช้วิธีเสริมผิวแบบแอสฟัลต์ (Asphalt Overlay) เนื่องจากส่วนใหญ่บริเวณผิวของถนนมีการหลุดร่อนของผิวหน้าออกไปเป็นจำนวนมาก จนเกิดเป็นหลุม ซึ่งการเสริมผิวแบบแอสฟัลต์ (Asphalt Overlay)นี้ยังสามารถใช้ในการซ่อมแซมถนนที่มีรอยแตกหรือมีลักษณะผิวหน้าที่ขรุขระได้อีกด้วย และยังจะช่วยให้ถนนสามรถกลับมาใช้งานได้ดีเป็นปกติ ซึ่งในระหว่างซ่อมแซมถนนนั้นสามารถทำได้โดยไม่ต้องปิดถนนตลอดทั้งเส้นทางอีกด้วย ถนนโดยทั่วไปจะมีอายุการใช้งานมากสุด 7 ปีแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอายุการใช้งานของถนนจะขึ้นอยู่กับการคมนาคม