5.การปะซ่อมผิวทาง (Skin Patching) คือการซ่อมแซมความเสียหายของถนนที่เกิดความเสียหายเฉพาะชั้นผิวทาง โดยนำผิวทางเดิมที่เสียหายออก แล้วนำไปผสมกับส่วนผสมใหม่ ใช้ในการซ่อมแซมผิวที่แตก และหลุดร่อนออกไป เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำซึมผ่านลงไปทำลายโครงสร้างของชั้นถนน และยังคืนสภาพให้ถนนสามารถกลับมาใช้งานได้ใหม่
6.การขุดซ่อมผิวทาง (Deep Patching) คือการซ่อมแซมความเสียหายของถนนที่ความเสียหายเกิดขึ้นลึกกว่าชั้นผิวทาง ลักษณะความเสียหายที่เกิดขึ้นนี้ จะทำให้ถนนเกิดการบวมแตก ผิวหลุดร่อน การซ่อมแซมในลักษณะนี้จะเป็นการซ่อมแซมแบบถาวร เพื่อป้องกันไม่ให้ความเสียหายที่เกิดขึ้นในชั้นโครงสร้างลุกลามขึ้นไปมากกว่าเดิม และยังสามารถช่วยยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้นไปได้อีก
7.วิธีการเสริมผิวแบบแอสฟัลต์ (Asphalt Overlay) คือการซ่อมแซมผิวถนนเดิมโดยการเสริมวัสดุผิวทางด้วยแอสฟัลต์บนผิวทางเดิม เพื่อแก้ไขความเสียหายของผิวทาง และเสริมความแข็งแรงให้แก่ผิวของถนน สามารถปรับระดับผิวทางที่ทรุดตัวเป็นแอ่งร่องล้อ และเสริมความแข็งแรงให้โครงสร้างของถนน
8.การอุดซ่อมโพรงใต้แผ่นพื้นถนนคอนกรีต (Subsealing) คือการซ่อมแซมถนนอุดโพรงใต้ถนนคอนกรีต ที่มีผลความเสียหายจากการกัดเซาะอันเนื่องมาจากการทรุดตัวของโครงสร้างถนนเพิ่มเสถียรภาพให้แก่พื้นคอนกรีต เพื่อป้องกันไม่ให้ถนนเกิดการทรุดตัว และเกิดความเสียหายลุกลามไปมากขึ้น
จากการทำการสำรวจพื้นผิวถนนพบได้ว่าควรจะมีการซ่อมแซมถนนเส้นทางนี้เป็นอย่างมาก เพราะเมื่อได้มีการสำรวจสภาพของพื้นผิวถนนแล้ว พบว่าความเสียหายของสภาพพื้นผิวอาจจะเพิ่มขึ้นไปได้อีก อันเนื่องมาจากสภาพโดยทั่วไปของถนนที่ไม่ได้ถูกสร้างมาไว้เพื่อใช้ในการสัญจร แต่สภาพของชั้นโครงสร้างของถนนนั้นได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในการกันน้ำ จึงทำให้ถนนเส้นนี้มีความเสียหายจากการใช้มากที่สุด ทั้งความเสียหายนี้อาจจะมากจากน้ำที่ขังอยู่บริเวณหลุมของถนน ซึ่งอาจจะซึมผ่านลงไปในชั้นโครงสร้างทำให้ชั้นโครงสร้างเสียหาย จึงต้องทำการซ่อมแซมถนนสายนี้โดนใช้วิธีเสริมผิวแบบแอสฟัลต์ (Asphalt Overlay) เนื่องจากส่วนใหญ่บริเวณผิวของถนนมีการหลุดร่อนของผิวหน้าออกไปเป็นจำนวนมาก จนเกิดเป็นหลุม ซึ่งการเสริมผิวแบบแอสฟัลต์ (Asphalt Overlay)นี้ยังสามารถใช้ในการซ่อมแซมถนนที่มีรอยแตกหรือมีลักษณะผิวหน้าที่ขรุขระได้อีกด้วย และยังจะช่วยให้ถนนสามรถกลับมาใช้งานได้ดีเป็นปกติ ซึ่งในระหว่างซ่อมแซมถนนนั้นสามารถทำได้โดยไม่ต้องปิดถนนตลอดทั้งเส้นทางอีกด้วย ถนนโดยทั่วไปจะมีอายุการใช้งานมากสุด 7 ปีแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอายุการใช้งานของถนนจะขึ้นอยู่กับการคมนาคม